เคล็ดลับยืดอายุ เฟอร์นิเจอร์ แต่งบ้าน

• เฟอร์นิเจอร์ แต่งบ้าน ก็ต้องการความรัก และการดูแลเอาใจใส่เช่นเดียวกับคน ซึ่งเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทก็มีวิธีการดูแลที่แตกต่างกันไป ดังนั้น เรามาเริ่มดูแลสิ่งของอันมีค่าเพื่อให้มันอยู่กับเราได้อย่างยาวนานกันดีกว่าค่ะ

เชื่อได้เลยว่าบ้านทุกหลัง ทุกหอพัก ของเพื่อนๆ จะต้องมี เฟอร์นิเจอร์ ไว้ประดับตกแต่งห้อง ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้ โต๊ะ โซฟา แต่พอใช้นานวันเข้าก็เริ่มเก่า เสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน รวมถึงปัจจัยอื่นที่มีผล เช่น ฝุ่นที่มาเกาะ หรือแม้กระทั่งเราทำอาหาร-น้ำดื่มหกใส่ จึงทำให้เกิดคราบสกปรกมากมาย ส่งผลให้อายุการใช้งานถดถอยลง จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถยืดอายุการใช้งานให้พวกข้าวของเครื่องใช้พวกนี้ได้ แล้วจะมีวิธีการดูแลอย่างไรบ้างเราไปดูกันค่ะ

1. แบบหนังแท้

เฟอร์นิเจอร์หนังโดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานยาวนาน เพราะมีคุณสมบัติในเรื่องของความทนทานมากกว่าวัสดุประเภทอื่น เพียงคุณดูแลให้ดี ก็จะยิ่งเป็นวัสดุอายุยืนยาวขึ้นไปอีก หากเครื่องหนังของคุณอยู่ในห้องปรับอากาศ ก็ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษามากนัก แต่ถ้ามันถูกตากแดดล่ะก็ ความร้อนจากแดดจะทำให้หนังเสื่อมสภาพเร็ว

ดังนั้น เราจึงควรบำรุงรักษาด้วยการเคลือบน้ำยาป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดรอยแห้ง และแตกลายจากการถูกใช้งานเป็นประจำ เช่น พนักพิงศีรษะ ท้าวแขน บริเวณเหล่านี้จะเกิดการหมักหมมของเหงื่อ และสิ่งสกปรกได้ง่าย จึงต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาด ประมาณปีละครั้งก็เพียงพอ สำหรับการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ใช่เฉพาะเครื่องหนัง ไม่ควรนำมาใช้ร่วมกัน เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายได้

ส่วนการดูแลเฟอร์นิเจอร์หนังกลับ จะต้องใช้การดูแลรักษามากกว่าหนังแท้ เพราะหนังกลับจะเก็บความสกปรกไว้ได้มากที่สุด วิธีการทำความสะอาด ให้ใช้แปรงขนสีดำค่อนข้างแข็ง แปรงไปในทางเดียวกัน แต่หากเกิดรอยเปื้อนมาก ให้ใช้แปรงสีฟันจุ่มลงน้ำสบู่พอหมาดๆ แล้วแปรงบริเวณรอยเปื้อนไปในทางเดียวกัน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดเช็ดออกอีกครั้ง ทำความสะอาดประมาณ 1-2 อาทิตย์ ต่อครั้งค่ะ

2. แบบบุผ้า

เป็นวัสดุที่ดูบอบบาง มักนิยมนำมาตกแต่งมุมนั่งเล่นเอ้าท์ดอร์ เพราะให้ความรู้สึกนุ่มสบาย เข้ากับการพักผ่อนในสวนเป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อย คือ ความสกปรกที่เกิดจากการสะสมของฝุ่นละออง ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพและสีจางลงได้รวดเร็ว จึงควรทำสะอาดด้วยการดูดฝุ่นเป็นประจำ ถ้าเป็นคราบเปื้อน ให้ใช้แปรงขนนุ่มหรือฟองน้ำ ชุบน้ำสบู่อ่อนๆ ขัดเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด รวมถึงเคลือบน้ำยาที่มีคุณสมบัติในการป้องกันของเหลว เพื่อเลี่ยงปัญหาสิ่งสกปรกฝังติดอยู่ในเฟอร์นิเจอร์

3. ประเภทหวาย

ก่อนถูกนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ จะผ่านการทาสารเคลือบเงาเพื่อความสวยงามมาก่อนแล้ว จึงทนต่อแสงแดดได้ดี โดยวิธีทำความสะอาดเพียงแค่หมั่นปัดฝุ่นออก หรือเช็ดด้วยผ้าสะอาดเป็นประจำ รวมถึงการลงน้ำยาเคลือบเงาบ้างเป็นครั้งคราว ก็จะทำให้สวยเหมือนใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่หากเป็นหวายแท้ ไม่ได้มีการเคลือบเงา ควรใช้แต่ในร่มเท่านั้น ไม่ควรให้ถูกแสงแดดสาดส่อง และถ้าพบเห็นคราบเลอะ ควรรีบทำความสะอาดทันที โดยใช้ผ้าชุบน้ำเปล่าผสมน้ำสบู่เช็ด เสร็จแล้วตากแดดให้แห้ง เคลือบแลคเกอร์ปิดท้าย ทำเพียงปีละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอค่ะ แต่หากพบเห็นรอยแตก ให้เพิ่มความชุ่มชื่นแก่ผิวหวายด้วยน้ำยารักษาหวาย สำหรับบริเวณขาให้ใช้แผ่นยางรองไว้เพื่อป้องกันการเกิดรอยแตกค่ะ

4. ประเภทไม้

การดูแลเฟอร์นิเจอร์ไม้ก็ไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด โดยเฉพาะไม้แท้ๆ เนื่องจากมีความคงทน อีกทั้งไม้ยังให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ วางไว้มุมใดของบ้านก็จะช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ทำให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น สำหรับการดูแล ควรเคลือบน้ำยารักษาเนื้อไม้ เพื่อป้องกันความร้อนที่อาจทำให้เนื้อไม้เสื่อมสภาพได้ หากมีสิ่งสกปรกให้ใช้ผ้าฝ้าย หรือผ้าขนหนูชุบน้ำสบู่ผสมน้ำเจือจาง บิดผ้าพอหมาด แล้วเช็ดให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ระมัดระวังอย่าใช้น้ำมากจนเกินไป หลังเช็ดแล้วต้องรีบผึ่งเฟอร์นิเจอร์ให้แห้งโดยเร็ว แต่หากเป็นเฟอร์นิเจอร์เก่า ให้ใช้เพียงผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาด ปัดฝุ่นด้วยไม้ขนไก่ หรืออาจเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยเฉพาะ แต่ควรเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และแอมโมเนียค่ะ

อย่างไรก็ตามก่อนที่เพื่อนๆ จะตัดสินใจเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ตัวนั้นๆ ควรถามผู้ขายก่อนว่าเฟอร์นิเจอร์นี้ทำด้วยวัสดุชนิดใด มีวิธีดูแล หรือทำความสะอาดอย่างไรบ้าง อย่างที่เรากล่าวไว้ข้างต้นว่า แต่ละชนิดก็มีการดูแลที่ต่างกันออกไป ดังนั้นถามเพื่อความชัวร์จะดีกว่าค่ะ เพื่อที่มันจะได้อยู่กับเราไปนานแสนนาน