เทคนิคดับกลิ่น ห้องครัว
สำหรับเรื่องอาหารการกินในสังคมไทยของเรานั้น ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวเลยละค่ะ อาหารไทยนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งเรื่องรูปลักษณ์ สีสัน วัตถุดิบที่นำมาใช้ ล้วนทำให้อาหารที่ทำออกมานั้นน่ารับประทาน รสชาติกลมกล่อม แถมมีกลิ่นหอมรัญจวนใจชวนน้ำลายสออีกด้วย อาหารไทยยังติดอันดับต้นๆ ของโลกที่คนนิยมรับประทานด้วยนะคะ
แต่ . . . ช้าก่อน เพราะกว่าเจ้าอาหารเหล่านี้จะมาปรากฏสู่สายตาเราได้เพอร์เฟกต์ขนาดนี้ต้องผ่านกรรมวิธีการทำมากมาย การใช้สารพัดเครื่องปรุงในการทำให้อร่อย เพื่อให้มีกลิ่นหอม เมื่อไรก็ตามที่กลิ่นหอมจากเครื่องปรุงมาอยู่รวมกันมากๆ จนทำให้กลิ่นตีกันจนคละเคล้าไปทั่ว และเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ขึ้น ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะสิงสถิตอยู่ในสถานที่ที่เราใช้ประกอบอาหาร นั่นก็คือ ห้องครัว ของเรานั่นเอง เมื่อเกิดการสะสมมากๆ ห้องครัวก็จะกลายเป็นสถานที่ภายในบ้านที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์อีกต่อไป เพราะคงไม่มีใครที่อยากอยู่ในสถานที่ที่มีแต่กลิ่นเหม็นอับ และเป็นศูนย์รวมของความสกปรกแน่นอน
วันนี้เราจึงนำเคล็ดลับดีๆ ในการทำความสะอาดห้องครัวของเราให้สะอาด สดใส ไร้กลิ่น มาฝากกัน โดยเฉพาะ “ห้องครัวเปิด” ที่ไม่เพียงแต่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้ภายในครอบครัวเราเท่านั้น ยังส่งผลถึงบ้านเรือนแวดล้อมของเราอีกด้วย ถ้าไม่อยากโดนยี้จากเพื่อนบ้านแล้วละก็ ลองทำตามเคล็ดลับทั้ง 10 ของเราดูสิคะ
อาวุธลับที่ 1 การดับกลิ่นจากเตา
เพราะเตาเป็นจุดที่เราใช้ประกอบอาหาร ปะทะกับกลิ่นต่างๆ และมีคราบมากมาย เป็นบ่อเกิดของความสกปรก กลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่วนการทำความสะอาดเตา หากเป็นเตาแก๊สทั่วไป หัวเตาจะมีสองส่วน สามารถถอดออกจากกันได้ ส่วนที่ถอดได้ เราใช้การทำความสะอาดเหมือนการล้างจานทั่วไป คือ ใช้น้ำยาล้างจานกับฟองน้ำขัดๆ ถูๆ จนสะอาด แต่ถ้ามีคราบเหนียวหนึบก็จะหลุดออกยาก แนะนำให้ใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นเพื่อให้คราบนั้นหลุดง่ายขึ้น ต่อมาส่วนของหัวเตา แค่ใช้ฟองน้ำชุบน้ำยาล้างจานผสมน้ำอุ่นพอหมาดๆ เช็ด แต่ถ้าคราบสกปรกติดทนนาน ควรใช้ตัวช่วยเป็นเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู จะช่วยให้คราบต่างๆ หลุดง่าย เพียงเท่านี้เราก็สามารถดับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากครัวไปได้หนึ่งจุดแล้วละค่ะ
อาวุธลับที่ 2 การดับกลิ่นจากไมโครเวฟและเตาอบ
เพียงแค่นำส่วนประกอบพวกตะแกรงมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน ทิ้งไว้สักครู่ ใช้ฟองน้ำขัดถู แล้วนำไปผึ่งลมจนแห้ง ส่วนตัวตู้ให้นำกระดาษฟอยล์ห่อหุ้มส่วนที่เป็นแผงวงจรต่างๆ ป้องกันการเสียหาย และใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำเปล่าขัดให้ทั่วทั้งตู้ ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน จึงค่อยๆ แกะก้อนที่แห้งออก นำผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดซ้ำอีกครั้ง อีกหนึ่งเคล็ดลับคือ จากวัตถุดิบที่เราหามาเอง โดยใช้น้ำมะนาวผสมน้ำสะอาดกดตั้งเวลาอบไว้สัก 1 นาที ไอของน้ำมะนาวที่เกาะตามเตาไมโครเวฟและเตาอบ จะช่วยทำให้เช็ดคราบต่างๆ ออกได้เช่นกันค่ะ
อาวุธลับที่ 3 การดับกลิ่นจากตู้เย็น
ตู้เย็นนั้นเป็นสิ่งที่ใช้ในการเก็บรักษาและถนอมอาหาร แต่หากเราไม่ทำความสะอาดหรือเก็บกวาด จะทำให้ตู้เย็นของเรากลายเป็น ถังขยะติดแอร์ ไปโดยปริยาย วิธีทำความสะอาดตู้เย็น ขั้นแรก เราต้องถอดปลั๊กออกก่อนเพื่อความปลอดภัย และถอดส่วนประกอบต่างๆ ออกมาทำความสะอาดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำอุ่น ขัดถูต่อด้วยน้ำยาล้างจาน และล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ส่วนตัวตู้ก็ทำความสะอาดเช่นเดียวกัน หลังจากนั้นจึงค่อยๆ นำอาหาร หรือวัตถุดิบต่างๆ จัดเรียงเข้าไปให้เรียบร้อย จัดการแยกประเภทให้เป็นสัดส่วน อะไรที่ไม่ใช้ หรือไม่จำเป็น ก็ให้กวาดล้างให้สิ้นซาก เพียงเท่านี้ตู้เย็นของเราก็จะเป็นคลังอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ไร้เชื้อโรค ไร้กลิ่นแล้วค่ะ
อาวุธลับที่ 4 การดับกลิ่นตู้เก็บวัตถุดิบ
ใช้เก็บวัตถุดิบต่างๆ ก็ต้องทำความสะอาดเช่นกัน เราอาจจะเข้าใจว่าตู้เก็บของแห้งอาจจะไม่ส่งกลิ่นอะไร แต่ของแห้งนี่ละตัวดีเลยค่ะ หากเก็บไว้นานๆ จะทำให้มีกลิ่นอับ และเกิดเชื้อราได้เช่นกัน ถึงจะเป็นของแห้ง แต่จริงๆ แล้วของแห้งเหล่านี้ก็คือ ของสดที่นำไปตากแดด เพื่อให้แห้ง และยืดอายุการใช้งานได้มากขึ้นนั่นเอง ของแห้งบางชนิดยังคงมีน้ำอยู่ แค่ถูกรีดน้ำออกไปจนดูเหมือนว่าแห้งสนิทไปแล้วเท่านั้นเอง วิธีการดับกลิ่นนั้นก็เพียงแค่นำผ้าชุบน้ำสะอาดแล้วเช็ด จากนั้นก็นำผ้าแห้งเช็ดตามเพื่อให้แห้งสนิท ก่อนจะนำวัตถุดิบต่างๆ จัดเรียงใส่ตู้ หากเป็นเครื่องเทศ หรือเครื่องแห้งให้ใส่โหลมีฝาแยกตามชนิด เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา และกลิ่นเล็ดลอดออกมาจนทำให้เกิดกลิ่นอับ สิ่งไหนที่หมดอายุหรือไม่ใช้แล้วให้นำไปทิ้งนะคะ ทางที่ดีควรมีกระดานจดชื่อวัตถุดิบ และวันหมดอายุไว้สักหน่อย ให้รู้ว่าเราควรใช้สิ่งใดให้หมดก่อน เมื่อตู้สะอาดเป็นระเบียบ และผ่านการป้องกันเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถดับกลิ่นในครัวจุดที่ 4 ได้แล้วค่ะ
อาวุธลับที่ 5 การดับกลิ่นจากเครื่องครัว
ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร รวมไปถึงอุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร อุปกรณ์เหล่านี้มักจะสัมผัสกับอาหารโดยตรง และกลิ่นไม่พึงประสงค์ส่วนหนึ่งก็มาจากเครื่องครัวด้วยเช่นกัน วิธีทำความสะอาดเครื่องครัวให้ไร้กลิ่น นอกจากล้างโดยใช้น้ำยาล้างจาน หรือล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้ว การจัดเก็บก็สำคัญ โดยเฉพาะเครื่องครัวแบบมีหู ก้นลึกทั้งหลาย ล้างแล้วควรผึ่งให้แห้งสนิทเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อราและขึ้นสนิม ถ้าเป็นแก้วน้ำ ก็ควรคว่ำเรียงกันไปก่อน 1 ชั้น และชั้นที่ 2 ให้วางสับหว่างกับชั้นแรก เพราะการวางแบบนี้ แก้วจะแห้งทั่วถึงกับทุกใบ ไม่มีน้ำขังเหมือนการคว่ำซ้อนก้นแก้วกันขึ้นไป เพียงเท่านี้กลิ่นที่ 5 ของเราก็จะถูกดับกลิ่นแล้วละค่ะ
อาวุธลับที่ 6 การดับกลิ่นจากโซนเคาน์เตอร์
ส่วนนี้เป็นส่วนที่ใช้ในการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ วัตถุดิบในการทำอาหาร หรือพักอาหาร ซึ่งจะมีคราบ และเศษอาหารหกเลอะเทอะพอสมควร คราบเหล่านี้ถึงจะผ่านการเช็ดล้างทำความสะอาดแล้ว ใช่ว่าจะหมดกลิ่นง่ายๆ วิธีการกำจัดกลิ่นจากโซนนี้ก็คือ ทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน นอกจากจะเช็ดล้างด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเรียบร้อยแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดยี่ห้อต่างๆ ควรนำมาใช้ด้วยเช่นกัน ที่สำคัญควรเลือกให้เหมาะกับผิวของเคาน์เตอร์ นอกจากนี้การจัดวางข้าวของเครื่องใช้ควรจัดเก็บให้เป็นระเบียบ ใส่ภาชนะที่มิดชิด เพราะของบริเวณนี้คือ ของที่เราจะใช้เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว หรือวัตถุดิบ เพียงเท่านี้โซนเคาน์เตอร์ของเราก็สะอาด ปลอดภัย ไร้กลิ่นรบกวนแล้วละค่ะ
อาวุธลับที่ 7 การดับกลิ่นจากอ่างล้างจานและท่อน้ำทิ้ง
ตรงส่วนนี้จะเป็นส่วนที่เราเก็บล้างเครื่องครัว หรือล้างวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เวลาล้างก็จะเทเศษอาหารต่างๆ ทิ้งไปตามช่องระบายน้ำ ตรงนี้เองทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะอาจจะมีเศษอาหารไปติดบนตะแกรง หรือทางเดินของท่อระบายน้ำ จนทำให้เกิดการอุดตัน และส่งกลิ่นรบกวนได้ วิธีการดับกลิ่นก็คือ อย่าปล่อยให้อ่างล้างจานแห้งเอง ควรใช้น้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน และใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาด เสร็จแล้วให้ต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจาน และน้ำส้มสายชูจนเดือด นำไปเทลงในอ่างล้างจาน วิธีนี้จะช่วยขจัดคราบ และสิ่งตกค้างได้ทันที ทำให้อ่างล้างจานของเราปลอดภัยไร้สารตกค้างกันเลยทีเดียวละค่ะ แต่ . . . อย่าใช้เบกกิ้งโซดากับการทำความสะอาดท่อต่างๆ นะคะ แรกๆ อาจจะไหลลื่น แต่หลังๆ จะอุดตันมากกว่าเดิม เพราะเจ้าเบกกิ้งโซดาที่ไม่ยอมไหลไปไหนจะจับตัวเป็นก้อน ขัดขวางทางเดินของน้ำทิ้งด้วยค่ะ
อาวุธลับที่ 8 การดับกลิ่นจากถังขยะ
ครัวเปิดอย่างเรามักจะเอาถังขยะไว้ส่วนที่อยู่นอกพื้นที่การทำอาหาร หากเราไม่ดูแลอย่างดี จะทำให้ถังขยะเราเกิดหมักหมม และส่งกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้านของเราแน่นอน ขั้นแรก ก่อนใช้ถังขยะทุกครั้ง ควรใส่ถุงดำรองถังไว้เพื่อกันเปื้อนตัวถัง และสามารถนำไปทิ้งได้สะดวกกว่า แต่หากว่าตัวถังขยะเปื้อน ให้รีบล้างด้วยน้ำผสมเบกกิ้งโซดา เพียงเท่านี้ถังขยะของเราก็จะสะอาด ปลอดเชื้อ ปลอดกลิ่นกวนใจแล้วค่ะ
อาวุธลับที่ 9 การดับกลิ่นปล่องดูดควัน
จริงอยู่ว่าครัวแบบเปิดสามารถถ่ายเทอากาศได้ดีกว่าครัวแบบปิด แต่ปล่องดูดควันก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยดูดควันให้ลอยสูงขึ้นไปตามท่อออกไปสู่ภายนอกได้ เพราะเหตุนี้นี่เอง เราควรมาดับกลิ่นปล่องดูดควันกัน เพราะหากไม่ได้ทำความสะอาดปล่องดูดควันเลย นานวันเข้ากลิ่นจะเกิดการทับถม เมื่อกลิ่นลอยออกไปภายนอก จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้านได้ จึงควรทำความสะอาดด้วยวิธีต่อไปนี้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกปล่องดูดควันให้สะอาด และถอดฟิลเตอร์ปล่องดูดควันนำมาล้างด้วยน้ำยาอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง จะทำให้กลิ่นที่ออกไปสู่ภายนอกมีเพียงกลิ่นอาหารอันน่ารับประทานของเราเท่านั้นแล้วค่ะ
อาวุธลับที่ 10 การดับกลิ่นจากการปัด กวาด เช็ด ถู บริเวณครัวของเรา
หลังจากทำกิจกรรมทุกอย่างเสร็จแล้ว เราควรทำความสะอาดครัวโดยการเก็บกวาดพื้น ถูพื้นด้วยน้ำยา หรือน้ำร้อน หากพื้นที่ของเรามีคราบที่หมักหมมมากๆ และใช้ไม้ถูแห้งๆ ถูซับพื้นให้แห้งเพื่อป้องกันการเหม็นอับ ส่วนผนังเมื่อเห็นคราบหรือรอยต่างๆ อันเกิดจากการทำอาหารให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำอุ่นเช็ดออกทันที เพียงเท่านี้บริเวณครัวของเราก็จะสะอาด สวย เหมือนใหม่เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ 10 อาวุธลับดับกลิ่นครัวเปิดของเรา เห็นไหมคะว่าการทำความสะอาดครัวไม่ใช่เรื่องยาก วัตถุดิบในครัวเรือนของเราก็สามารถนำมาดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ของห้องครัวได้เช่นกัน ถ้าใครสนใจลองไปทำตามกันดูนะคะ คราวหน้าเราจะพาไปพบกับเคล็ดลับแบบไม่ลับเรื่องอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวไประเบิดครัวของตัวเองก่อนนะคะ บ๊ายบายยยยยย