สังเกตอาการป่วยของ ต้นไม้

• เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ต้นไม้ กำลังป่วยอยู่หรือเปล่า เพราะต้นไม้ไม่สามารถบอกเราได้ว่ามันกำลังรู้สึกอย่างไร แต่สิ่งเดียวที่แสดงให้เรารู้ได้ว่ามันกำลัง “แย่” คือ สภาพ หรือลักษณะของต้นไม้ที่เปลี่ยนไปนั่นเอง

อาการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ได้เกิดขึ้นกับคนเพียงเท่านั้น แต่ต้นไม้ก็สามารถป่วยได้เช่นกัน บางทีเราอาจไม่รู้หรอกว่าอาการป่วย หรืออาการผิดปกติของต้นไม้นั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เพราะต้นไม้ไม่สามารถพูดได้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้นไม้กำลังเจอกับปัญหาอะไรอยู่ มีสัญญาณบ่งบอกที่น่าสนใจอย่างไร และเราจะสังเกตได้จากอะไรบ้าง วันนี้ Gurubaan มีข้อมูลของเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ

อาการป่วยของต้นไม้หลักๆ มีสาเหตุมาจาก 2 อย่างด้วยกันค่ะ
• อาการป่วยที่เกิดจากคน และสิ่งแวดล้อม
• อาการป่วยที่เกิดจาก โรค แมลงศัตรูพืช

1.ใบไม้กลายเป็นสีน้ำตาลแห้งกรอบ ใบไหม้ ซีด คล้ายกับโดนน้ำร้อนลวกแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ปัญหานี้ต้องย้อนกลับไปดูว่าต้นไม้ที่ปลูกชอบแดดแบบไหน ส่วนใหญ่แล้วที่มีปัญหาใบไหม้จะเป็นเพราะต้นไม้ต้นนั้นต้องการแดดรำไร หรือเป็นไม้ในร่มที่ชอบแดดอ่อนในตอนเช้า ถ้าปลูกในจุดที่โดนแดดจัดนานๆ โดยเฉพาะแดดบ่ายที่ค่อนข้างแรง ใบก็จะถูกแดดเผาจนไหม้ให้เห็นนั่นเอง ทางที่ดีก่อนเลือกต้นไม้ก็ควรดูว่าพื้นที่ที่จะปลูกมีสภาพแสงเป็นอย่างไร แล้วค่อยเลือกต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพแสง

2.ใบแห้งจากขอบ สาเหตุมาจากดินขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น เป็นเพราะให้น้ำน้อยเกินไป หรือดินแน่นจนน้ำซึมผ่านลงไปไม่ถึงราก ทำให้ต้นไม้ได้น้ำไม่เพียงพอที่จะไปหล่อเลี้ยง อาการที่สังเกตได้คือ ใบจะเริ่มแห้งกรอบจากขอบใบเข้าหากลางใบ และมักจะเป็นเกือบทุกใบบนต้น ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือ เพิ่มจำนวนรอบการรดน้ำให้มากขึ้น ในระยะแรกอาจจะยังไม่ต้องเพิ่มปริมาณน้ำ เพียงแต่รดให้บ่อยขึ้นก่อน เพราะถ้ารดบ่อยขึ้นแล้วเพิ่มปริมาณน้ำเข้าไปด้วย ต้นไม้อาจจะเปลี่ยนจากการขาดน้ำเป็นสำลักน้ำตายแทนได้

3.ใบของต้นไม้เอียงไปด้านข้าง ถ้าสังเกตเห็นว่าใบไม้ของคุณกำลังเอนตัวไปหาแสงแดด นั่นหมายความว่า การปลูกในที่ร่มทำให้ต้นไม้ของคุณได้รับแสงไม่เพียงพอ หรือการปลูกชิดกันเกินไปทำให้ต้นไม้แย่งอาหาร แย่งออกซิเจนกันเอง ต้นไม้ก็จะพยายามยืดสูงเพื่อขึ้นไปรับอากาศและแสงแดดด้านบน แต่ใบจะออกสีเหลืองซีด บางต้นก็ไม่ออกดอกออกผล ดังนั้นคุณควรนำกระถางต้นไม้ต้นนั้นไปตากแดดบ้าง

4.ใบจะขาด ต้นไม้ไม่โต เกิดจากการขาดน้ำ หรือปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของต้นไม้ บางคนเลือกปลูกต้นไม้ที่ไม่ต้องการน้ำ เพราะตนเองไม่ค่อยมีเวลาดูแลเอาใจใส่ หากคุณสังเกตเห็นว่าตั้งแต่คุณซื้อต้นไม้ต้นนั้นมา แล้วมันยังมีขนาดเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แสดงว่าคุณควรให้น้ำกับมันบ่อยๆ แล้วล่ะค่ะ

5.ขอบใบกำลังเป็นสีเหลือง เกิดจากความชื้นในดินสูงเกินไป หรือมีมลพิษในอากาศ ทำให้ใบเปลี่ยนสี รวมถึงการดูแลที่ไม่ถูกต้อง เช่น ปลูกต้นไม้ที่ชอบแดดไว้ในที่ร่ม การใส่ปุ๋ยไม่ถูกวิธี เป็นต้น การได้รับน้ำไม่สม่ำเสมอ หรือในกรณีที่พืชขาดน้ำนานๆ แล้วต่อมาฝนตกกะทันหัน จะทำให้เกิดอาการผลแตกแยกเป็นร่อง พืชได้รับน้ำไม่เพียงพอ หรือมากเกินไปจนทำให้ใบเหลือง นั่นแสดงว่าคุณอาจต้องลดการให้น้ำลง แต่ก็ไม่ใช่ขาดการให้น้ำไปเลยซะทีเดียว หรือรดน้ำจนแฉะท่วม

6.ใบของต้นไม้ซีดกว่าปกติ อาการขาดธาตุไนโตรเจน การเจริญเติบโตของต้นไม้ลดลง แตกยอดช้า ใบเล็กเหลืองซีด ใบร่วงง่ายเร็วกว่ากำหนด ลำต้นและรากแคระแกร็น แตกกิ่งก้านน้อย ถ้าขาดมากๆ จะเหลืองซีดไปทั้งต้น อาจทำให้ตายได้ อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าต้นไม้ของคุณกำลังหิว และขาดธาตุเหล็ก แนะนำให้คุณเปลี่ยนขนาดกระถาง เพิ่มดิน รวมถึงธาตุอาหารในดินให้กับต้นไม้ของคุณค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ถ้าเห็นใบไม้กำลังบ่งบอกเรื่องราวต่อไปนี้แล้ว คุณก็ควรเร่งแก้ไข ปรับปรุง จะได้เยียวยาได้ทัน และควรหมั่นเพิ่มความเอาใจใส่ให้กับต้นไม้เป็นประจำด้วยนะคะ