ใครอยากเปิด ร้านขายของ เรามีข้อแนะนำมาให้

• หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มีความฝันอยากเปิด “ ร้านขายของ ” แต่ไม่รู้ต้องเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ วันนี้เรามีข้อแนะนำมาให้คุณค่ะ

การทำธุรกิจส่วนตัวอย่างการเปิดร้านขายของ เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องเดินทางไปทำงานให้เหนื่อย ไม่ต้องฟังเสียงบ่นจากเจ้านาย และไม่ต้องเข้าประชุมทุกวี่ทุกวันจนทำให้คุณรู้สึกเบื่อ หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นนายตัวเอง จึงหันมาทำธุรกิจส่วนตัวกันมากขึ้นในปัจจุบัน แต่นั่นอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าการเริ่มต้นของคุณไม่มีการวางแผนอะไรเลย ธุรกิจของคุณก็อาจจะเจ๊งได้เช่นกัน วันนี้ Gurubaan มีข้อแนะนำสำหรับการเริ่มต้นทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมาฝากค่ะ

1.เงินลงทุน
เรื่องเงินลงทุนเป็นอีกหนึ่งข้อที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไปมีเงินทุนที่ไม่จำกัด อันเกิดจากการสนับสนุนของบริษัทแม่ แตกต่างจากร้านขายของชำที่ต้องอาศัยทุนตัวเอง หรือไม่ก็กู้ยืมจากแหล่งการเงินต่างๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีที่ดีที่สุดคือ ผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนสำรองเอาไว้ภายในระบบบัญชีของทางร้านบ้าง ไม่ใช่ตัดเอาเข้าบัญชีออมทรัพย์ของตนเองแต่เพียงอย่างเดียว การแยกแยะบัญชีส่วนตัวและของบริษัทออกจากกัน เพื่อจะได้บริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้น โดยวิธีนี้จะทำให้กระแสเงินสดหมุนเวียนในร้านมีมากขึ้น ซึ่งเงินที่ได้มาจะสามารถเอาไปใช้ส่งเสริมกิจการภายในร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการสั่งสินค้า หรือตกแต่งร้าน เป็นต้น

2.การหาทำเลที่ตั้ง
แน่นอนว่าหากจะให้ดี การเลือกทำเลที่ตั้ง หรือทิศที่สอดคล้องกับฮวงจุ้ย จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของการค้าขายอีกด้วย ซึ่งการหันหน้าร้านไปยังทิศต่างๆ จะให้ผลดังต่อไปนี้
• ทิศตะวันออก เป็นทิศที่น่าสนใจ เพราะหากหันหน้าร้านไปยังทิศนี้ จะทำให้ร้าน หรือกิจการต่างๆ ได้รับความสำเร็จการค้าอย่างรวดเร็ว
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับร้านค้าที่หันหน้าร้านไปทิศนี้ จะมีความรุ่งเรือง เจริญก้าวหน้า เงินทองหมุนเวียนดี
• ทิศตะวันออก ร้านค้าที่ตั้งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกจะค้าขายดี มีกำไร เจริญเติบโตดี
• ทิศใต้ ร้านค้าที่ตั้งทางเขตทิศใต้ กิจการค้าขายจะเจริญอย่างรวดเร็ว ราบรื่น มีโอกาสดีๆ ในการค้า
• ทิศตะวันตกเฉียงใต้ สำหรับที่ตั้งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ มีความเชื่อว่าจะมีพลังทางด้านจิตใจ พูดง่ายๆ พอมีกำไร พอเพียง เจ้าของร้านจะอยู่ร่มเย็นดี

3.สำรวจตลาด
การสำรวจตลาดร้านขายของมีความสำคัญมาก เพราะเป็นขั้นตอนที่ทำให้เราเข้าใจ “ความต้องการของตลาด” และเข้าใจลูกค้าในขณะนั้น ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ทำให้คนที่อยากทำธุรกิจร้านขายของตีโจทย์แตก ว่าจะขายของประเภทใดถึงจะตอบโจทย์ของลูกค้า ลงทุนไปแล้วจะเห็นผลกำไรมากแค่ไหน

4.แต่งร้านให้ดูสะอาดและน่าเข้า
ผู้ประกอบการควรจัดแต่งหน้าร้านให้ดูเตะตา และสะอาดสะอ้านมากยิ่งขึ้น อาจใช้วิธีเพิ่มชั้นวางสินค้าต่างๆ ภายในควรคำนึงถึงความเป็นหมวดหมู่ มีระเบียบ สวยงาม มีความน่าสนใจ เช่น มีแสงไฟส่องสว่างในส่วนที่ควรเน้น ให้ของในร้านมีความโดดเด่น และแตกต่าง ช่องทางเดินในร้านก็ควรมีขนาดที่จะเดินชมสินค้าได้สะดวก ไม่ตั้งวางสิ่งของรกรุงรัง หรือกีดขวางทางเดิน เพราะจะทำให้พลังชี่ (พลังงานชีวิต) เกิดการติดขัด ไม่ลื่นไหล นอกจากนี้ยังสร้างความหงุดหงิดทางอารมณ์ให้ลูกค้า และส่งผลทางลบในระยะยาวได้อีกด้วย และที่สำคัญที่สุด รูปแบบของร้านก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองได้

5.เพิ่มฮวงจุ้ยร้านด้วยสีสันตกแต่งร้าน
การตกแต่งร้านค้า หรือสถานประกอบการด้วยสีสันต่างๆ ที่เป็นมงคลนั้น ก็สามารถช่วยเสริมดวงให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองได้เหมือนกัน เช่น การตกแต่งร้านด้วยสีแดง จะช่วยเสริมดวงในเรื่องชื่อเสียงเงินทอง การตกแต่งด้วยสีเหลืองหรือสีเขียว จะส่งเสริมในเรื่องของโชคลาภ กิจการไม่ตกต่ำ มั่นคงปลอดภัย และสำหรับการตกแต่งด้วยสีฟ้า จะช่วยส่งเสริมในเรื่องของความก้าวหน้า การเจริญเติบโต ความมั่นคง เป็นต้น

6.การบริหารอย่างมีขั้นมีตอน
การบริหารอย่างมีขั้นตอน เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านขายของชำจำเป็นต้องทำ ถ้าคิดจะปฏิวัติธุรกิจของตนให้สามารถสู้กับคู่แข่งได้ โดยแนวทางการบริหารที่จะขอแนะนำคือ ให้ผู้ประกอบการมุ่งเน้นไปที่การจัดการ และการทำการตลาด ยกตัวอย่าง การจัดการในเรื่องของบัญชีและคลังสินค้า ผู้ประกอบการควรรู้ว่าจำเป็นต้องสั่งสินค้าเข้าร้านมากเท่าไหร่ ในเวลาไหน และสุดท้ายจะได้กำไรเป็นเงินเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องของการตลาด ผู้ประกอบการก็อาจใช้วิธีจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เพื่อเป็นการดึงดูดใจลูกค้าให้เข้าร้านก็ได้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าร้านสะดวกซื้อจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายๆ ร้านที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ ดังนั้น Gurubaan ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ทุกท่าน ขอให้เอาชนะอุปสรรคโดยนำเอาข้อแนะนำที่เรานำมาฝากไปประยุกต์ใช้กันดูค่ะ และถ้าได้ผลดีอย่างไรก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ