มาดูการจัดสวนตามหลักพอเพียงกันเถอะ

9672
การจัดสวน ตามหลักพอเพียง

การจัดสวน ตามหลักพอเพียง

– แนะนำวิธี การจัดสวน แบบพอเพียง ประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเงินซื้อพืชผักตามท้องตลาด และหากได้ผลผลิตที่มากเกินความต้องการ ก็สามารถนำไปขายเพื่อสร้างรายได้เสริมอีกทางได้เช่นกัน


พูดกันได้เต็มปากว่าเราอยู่ในยุคสมัยที่ข้าวยากหมากแพงแบบสุดๆ เศรษฐกิจก็ฝืด เงินไม่ค่อยพอใช้บ้าง ลองวิธีนี้หน่อยไหมคะ โดยหันมาทำสวนตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้เรามีกินมีใช้ได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งหากทำดีๆ ก็สามารถสร้างรายได้ให้กับเราอีกด้วย จะรอช้าอยู่ใย ไปดูวิธีกันเลยดีกว่าค่ะ

พอเพียง

1.แบ่งพื้นที่ในสวน

การเริ่มต้นออกแบบสวนตามหลัก พอเพียง ให้เริ่มจากสำรวจพื้นที่ในสวนโดยการตรวจสภาพดิน ทิศทางแสงแดด และลม จากนั้นแบ่งพื้นที่สวนตามเกษตรทฤษฎีใหม่จากสูตร 30:30:30:10 โดยปรับเป็นโซนแปลงผักสวนครัว โซนสมุนไพร โรงเรือนเห็ด ฟาร์มสัตว์เล็กๆ ฟาร์มไส้เดือน และบ่อน้ำ แต่ถ้าพื้นที่มีจำกัดก็เลือกตามความเหมาะสมของบ้านเราก็ได้ค่ะ

พอเพียง

2.DIY ระบบน้ำ

การขุดบ่อน้ำหลักเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในสวน และต่อท่อไปยังแปลงปลูกทั้งหมดที่มี หรืออาจจะส่งตรงไปยังพืชที่ต้องการน้ำมาก นอกจากนี้ยังสามารถเลี้ยงปลาไว้เป็นอาหาร หรือปลูกพืชน้ำอย่างผักกระเฉดในบ่อได้อีกด้วย

3.ปรับดินให้มีคุณภาพ

สภาพดินสำหรับบางบ้านอาจเจอปัญหาหน้าดินแห้ง หรือดินไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืช แนะนำให้พรวนดินและเปิดหน้าดินรับแสงแดดโดยตรง จะช่วยปรับสภาพดินให้มีสารอาหารที่เหมาะสมกับพืช หรือจะทำการผสมดินเข้าช่วยก็ได้เช่นกันค่ะ

พอเพียง

4.เลือกใช้กระถาง

กระถางต้นไม้ที่ทำจากโลหะ หรือสังกะสีจะดูดซับความร้อนจากแสงแดดเข้ามามาก ทำให้ดินขาดความชุ่มชื้น ต้องรดน้ำบ่อยขึ้น ดังนั้นควรเลือกใช้กระถางที่สามารถกักเก็บความชื้น หรืออุ้มน้ำได้นาน เช่น กระถางดิน หรือจะ DIY นำตะกร้า หรือขวดน้ำพลาสติกมาใช้ในการปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยลดขยะ แถมประหยัดเงินอีกด้วย

การจัดสวน ตามหลักพอเพียง

5.ใช้ปุ๋ยอินทรีย์

ปุ๋ยอินทรีย์นั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ ปุ๋ยหมักจากซากพืชซากสัตว์ ปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์ และปุ๋ยพืชสดจากพืชหน้าดินที่ย่อยสลาย และเราสามารถทำปุ๋ยน้ำหมักเองได้ง่ายๆ ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้เราได้เยอะเลยค่ะ

เคล็ดลับทำปุ๋ยน้ำหมัก

นำมูลสัตว์ 1 ส่วนมาผสมกับใบไม้แห้ง แกลบ ฟาง หรือหญ้าแห้งแค่ 1 ส่วน รำ 1 ส่วน ให้เข้ากันและพักไว้ หันมาผสมกากน้ำตาล 40 ซี.ซี. กับน้ำเปล่า 10 ลิตร และจุลินทรีย์อีก 40 ซี.ซี. ให้เข้ากัน จากนั้นนำไปราดและคลุกเคล้ากับส่วนผสมแรกให้ได้เนื้อที่พอดี ไม่เหลว ไม่แห้งจนเกินไป วางปุ๋ยให้เป็นกองเพื่อหมักทิ้งไว้สักสัปดาห์ครึ่งก็เป็นอันใช้ได้

6.ให้ความชุ่มชื้นกับดิน

การรักษาความชุ่มชื้นของดิน ทำได้โดยใช้ทิชชู่ แพมเพิส (ชิ้นใหม่) หรือเสื้อถักไหมพรมตัวเก่ารองไว้ด้านในใต้กระถาง คลุมหน้าดินด้วยแกลบ และปลูกหญ้าแฝกไว้รอบสวน วิธีเหล่านี้จะช่วยกักเก็บน้ำไว้ในดินได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้พืชออกดอกออกผลอย่างสวยงาม

การจัดสวน ตามหลักพอเพียง

7.ปลูกพืชผักสวนครัว

การปลูกผักสวนครัวตามสภาพอากาศ และตามฤดูกาลจะทำให้มีกินตลอดทั้งปี เช่น ฤดูร้อนควรปลูกมะระ บวบ, ฤดูฝน (ช่วงต้น) ให้ปลูกกวางตุ้ง พริก (ช่วงปลาย) ควรปลูกมะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย, ฤดูหนาวควรปลูกมะเขือเทศ หอมใหญ่ ผักกาดขาว และสำหรับพืชหลักๆ ที่ควรปลูกเอาไว้ในสวนก็จะมี มะม่วง กล้วย มะละกอ ถั่วฝักยาว มันเทศ มะเขือ พริกไทย หญ้าแฝก กะเพรา เห็ด หรืออื่นๆ ที่ชื่นชอบ

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการออกแบบสวนตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง หากได้ผลผลิตที่มีจำนวนมากเกินความต้องการของเรา เพื่อนๆ สามารถนำไปแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน หรือถ้าอยากคืนกำไรให้ตัวเองก็สามารถนำผลผลิตออกมาขายได้ เป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้อีกด้วยค่ะ

 

เรียบเรียงโดย : เสาเข็ม

สาว สวย สูง สุดสตรอง จิตใจหนักแน่น แข็งแกร่ง เปรียบเสมือนเสาเข็มของบ้าน รากฐานบ้านที่คงทน ต้องอาศัยความมั่นคงของเสาเข็ม แต่เรื่องงานบ้านเดิมที่ทำไม่ค่อยถนัด แต่อาศัยศึกษาจากคนนู้นที คนนี้ที พอมีความรู้หน่อยก็เลยอยากบอกต่อค่ะ