จับตาแบบบ้านแนวใหม่ ยุค 4.0 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

742
แบบบ้าน ยุค 4.0

แบบบ้าน ยุค 4.0 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ ในยุค 4.0 ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อเทรนด์ แบบบ้าน หรือการสร้างบ้านในยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทั้งจากสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงสร้างประชากรศาสตร์ของประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ

คนอยากมีบ้านอายุน้อยลง
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านพบว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้ที่ต้องการมีบ้านได้เปลี่ยนจากกลุ่มที่มีอายุ 45-60 ปี เป็นกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 40 ปีมากขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันประเทศไทยยังมีสัดส่วนประชากรสูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากที่สุดในอาเซียน โดยคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้น การสร้างบ้านที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ จึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้น

แบบบ้าน ยุค 4.04 เทรนด์หลัก เน้นรักษ์โลก-ผู้สูงอายุ-บ้านอัจฉริยะ
แบบบ้านที่ได้รับความสนใจในปี 2561 มี 4 เทรนด์หลัก ได้แก่
1.Eco Friendly แบบบ้านประหยัดพลังงานและรักษ์โลก เป็นบ้านที่มีจุดประสงค์หลักเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้ออกแบบบ้านให้มีลักษณะโปร่ง โล่ง สบายเพื่อรับลม และความเย็นจากธรรมชาติ ช่วยป้องกันความร้อนที่สะสมในบ้าน โดยทั่วไปการออกแบบบ้านลักษณะนี้จะเน้นวิถีทางธรรมชาติ ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยี โดยติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน หรือติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บเป็นพลังงานทดแทน

2.Cluster บ้าน 3 เจนเนอเรชั่นแบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นปู่ย่า ตายาย อาศัยอยู่ร่วมกันกับบ้านลูกหลาน ในพื้นที่เดียวกันหรือหลังเดียวกัน โดยมีการแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน และใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์กันอย่างอบอุ่น เป็นบ้านผู้สูงอายุที่ไม่โดดเดี่ยว

แบบบ้าน ยุค 4.03.บ้านแบบครอบครัวขยาย Multi Familyหรือบ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน แบบบ้านที่มีลักษณะอยู่อาศัยแบบหลายครอบครัว ซึ่งขยายพื้นที่ใช้สอยออกไปได้ทั้งแนวสูงหรือแนวกว้างแล้วแต่ขนาดของที่ดิน แยกเป็นบ้านของพ่อแม่ ลูกชาย ลูกสาว หรือพี่น้อง ที่ตัดสินใจสร้างบ้านพักอาศัยอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ยังคงความเป็นส่วนตัว รวมทั้งมีส่วนบริการ สันทนาการร่วมกัน เช่น สระว่ายน้ำ ห้องรับประทาน ฟิตเนส หรือสวนของบ้าน

4.Innovative Living บ้านอัจฉริยะแบบบ้านที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัย โดยคาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะเริ่มปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น ระบบการสั่งการด้วยเสียง หรือระบบสั่งการด้วยการเคลื่อนไหวของร่างกาย ในการเปิด-ปิดไฟฟ้า ผ้าม่าน และเครื่องปรับอากาศ

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2561 มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับ 2 ปีก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 5% หรือมีมูลค่าตลาดรวม 11,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งผลทางจิตวิทยาต่อผู้บริโภคให้กล้าใช้จ่ายเงินก้อนใหญ่ในการปลูกสร้างบ้านมากขึ้น

 

ที่มา : ddproperty